ประวัติศาสตร์และการแสวงหาความจริง
"History of philosophy Searching for Truth"
คำว่า "ประวัติศาสตร์" (History) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกกล่าวคือ "Histor" แปลว่า การรับรู้ ถ้าเติม "I" เข้าไปจะเป็น "Histori" แปลว่า การสอบสวน การตรวจตรา การค้นคว้าและการไต่ถาม มีคำที่ใกล้เคียงคือ "Historio" คำนี้แปลว่า การสอบถาม สืบถาม สืบสวน การไต่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น (จันทร์ฉาย ภัคอธิคม, 2545: 1)
1. ความหมายของประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์มีหลายความหมายกล่าวคือ ประวัติศาสตร์คือการบันทึกเหตุการณ์ เครื่องนำไปสู่อดีต การศึกษากิจกรรมทุกอย่างที่มนุษย์ทในนอดีตทำมาเพื่อศึกษาว่ามนุษย์คิดอะไร (จันทร์ฉาย ภัคอธิคม, 2545: 1)
ประวัติศาสตร์คือการเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ ศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่เกี่ยวกับมนุษย์ ทำไมต้องมีประวัติศาสตร์? กล่าวคือ โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์มีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของตนเอง เรื่องราวของผู้อื่น สิ่งแวดล้อม เรื่องของโลก ฯลฯ เป็นต้น จึงมีการไต่สวน สอบถาม สืบสวนข้อเท็จจริง การอยากรู้อยากเห็นส่งผลให้มีการเรียนรู้อดีต การศึกษาประวัติศาสตร์ส่งเสริมให้มนุษย์รู้จักตนเอง โลกของตนและสังคมของตนดีขึ้น การศึกษาประวัติศาสตร์จำะทำให้มนุษย์เข้าใจปัจจุบันดีขึ้น (จันทร์ฉาย ภัคอธิคม, 2545: 2-3) การศึกษาประวัติศาสตร์ทำให้สามารถวิเคราะห์ความบกพร่งของอดีตให้เป็นบทเรียนแก่ปัจจุบันและอนาคตได้
2. ปรัชญาแห่งประวัติศาสตร์
ความคิดของนักปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ นักปรัชญาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปในทางการอธิบายถึงลักษณะและความสำคัญขอประวัติศาสตร์ และการวิเคราะห์การตั้งข้อสมมติฐาน นักปรัชญาแต่ละท่านมีแนวความคิดที่แตกต่างกันออกไปทั้งในด้านหลักการและรายละเอียด กล่าวได้ว่าแนวความคิดที่มีลักษณะเป็นนามธรรม (abstract) นักปรัชญาประวัติศาสตร์แบ่งออกได้ 2 แขนงใหญ่ๆ กล่าวคือ (ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, สุชาติ สวัสดิ์ศรี, 2527: 77)
1. ปรัชญาประวัติศาสตร์ทฤษฎี (Speculative Philosophy of History)
นักปรัชญาแขนงนี้มุ่งเน้นที่จะศึกษาและสร้างทฤษฎีประวัติศาสตร์ กล่าวได่้ว่า มุ่งศึกษาความหมายหรือความสำคัญของเหตุการณ์ หรือลักษณะทั้่วๆ ไปของกระบวนการทางประวัติศาสตร์ (historical process) นักปรัชญาแขนงนี้เริ่มต้นด้วยนักบุญออกัสติน (St. Augustine : ค.ศ. 354-430) ท่านได้กล่าวว่า พระเป็นเจ้าเป็นผู้กำหนดประวัติศาสตร์ให้แก่มนุษยชาติ (Divine Providence) พระเจ้าได้วางแผนการอย่างเดียวกับชนทุกชาติ ประวัติศาสตร์ของมนุษย์มีลักษณะเป็นสากล (universal) ที่รู้จักกันดีว่า "universal history" แนวความคิด หลักการของนักบุญออกัสตินมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ขัดแย้งกับแนวคิดของท่านกล่าวคือ Positivism, Historicism, German Idealism เป็นต้น โดยเสนอแนวคิดที่ว่า ประวัติศาสตร์เป็นการศึกษาสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยความสามารถของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เรียนรู้ได้
2.ปรัชญาประวัติศาสตร์วิเคราะห์ (Analytical Philosophy of History)
นักปรัชญาแขนงนี้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์การเขียนประวัติศาสตร์ในด้านเหตุผล นิบูห์ (Niebuhr) และรังเก (Ranke) เป็นผู้ที่วางรากฐานปรัชญาแขนงนี้ ท่านได้นำตรรกวิทยาและวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่า นักปรัชญาแขนงนี้พยายามอธิบายและแสวงหาความเข้าใจและขอบเขตของปัญหาทางประวัติศาสตร์ 3 ประการ
2.1 การตีความและอธิบายความประวัติศาสตร์ ควรสร้างกฏเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์หรือไม่? ประวัติศาสตร์มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองและไม่ซ้ำรอยในลักษณะเดิม
2.2 การศึกษาประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่สำคัญ เช่น สงคราม ชัยชนะ ความพ่ายแพ้ รูปแบบการปกครอง ฯลฯ จากบทบาทของมนุษย์ในสังคม
2.3 ประวัติศาสตร์ควรเป็นอย่างไร นอกจากจะมุ่งเสนอความจริงแล้ว ควรเน้นในเรื่องคุณค่าหรือไม่
3. สรุป
ปรัชญาประวัติศาสตร์ทั้งสองแขนงมีความคิดเห็นที่ต่างกันมีหลักการที่ต่างกัน ประวัติศาสตร์มีขอบข่ายที่กว้างและล้ำลึกเกินกว่าที่จะหาข้อสรุปเพียงประการเดียว ประวัติศาสตร์เป็นทุกสิ่งที่มนุษย์ได้ทำ ได้คิด ได้หวัง เพราะทุกสิ่งที่มนุษย์ได้ทำ ได้คิด ได้หวัง ย่อมมีความแตกต่างกันออกไปโดยธรรมชาติของมนุษย์
บรรณานุกรม
3. สรุป
ปรัชญาประวัติศาสตร์ทั้งสองแขนงมีความคิดเห็นที่ต่างกันมีหลักการที่ต่างกัน ประวัติศาสตร์มีขอบข่ายที่กว้างและล้ำลึกเกินกว่าที่จะหาข้อสรุปเพียงประการเดียว ประวัติศาสตร์เป็นทุกสิ่งที่มนุษย์ได้ทำ ได้คิด ได้หวัง เพราะทุกสิ่งที่มนุษย์ได้ทำ ได้คิด ได้หวัง ย่อมมีความแตกต่างกันออกไปโดยธรรมชาติของมนุษย์
บรรณานุกรม
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,สุชาติ สวัสดิ์ศรี.ปรัชญาประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช, 2527
จันทร์ฉาย ภัคอธิคม. ประวัติศาสตร์นิพนธ์.กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2545
เรียบเรียงได้ดีมากเลยครับ เป็นบทความวิชาการที่น่าสนใจและน่าอ่านอีกทั้งยังหน้าคัดลอกเอาไปใช้ อิอิอิ
ตอบลบเรียบเรียงได้ดีมากเลยครับ เป็นบทความวิชาการที่น่าสนใจและน่าอ่านอีกทั้งยังหน้าคัดลอกเอาไปใช้ อิอิอิ
ตอบลบเป็นบทความเชิงวิชาการที่สุดยอดไปเลยค่ะ อ่านแล้วอยากไปเรียนด้านปรัชญาเพิ่มจัง มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนและน่าค้นหาเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
ตอบลบความรู้แน่นจริง ว่าแต่ไปเอาเนื้อหามาจากไหนเนี่ย จะได้ไปคัดลอกมาบ้าง 55
ตอบลบ